นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตรากำไรสุทธิปี 63 จะเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่ 6.91%
แม้คาดว่ายอดขายปีนี้จะทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 5,300 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการบริษัทจัดการต้นุทนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงการตัดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่ไม่จำเป็นออกด้วย
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการติดตามทิศทางคำสั่งซื้อสินค้าที่เข้ามา เพื่อที่จะพิจารณาแผนการควบรวมโรงงานทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกันโดยการย้ายเครื่องจักรการผลิตจากโรงงานนพวงศ์ ปทุมธานี ไปไว้ในพื้นที่โรงงานโรจนะ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังปีนี้ หากคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมากบริษัทก็อาจจะพิจารณาชะลอแผนการย้ายโรงงานได้เช่นกัน
“ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะย้ายโรงงานทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกัน แต่ก็ต้องติดตามว่าคำสั่งซื้อจะเข้ามามากหรือไม่ หากคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมากเราก็อาจจะชะลอแผนการย้ายไปก่อนเพราะได้รับประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด (economies of scale) อยู่แล้ว แต่หากคำสั่งซื้ออยู่ในระดับใกล้เคียงกับปัจจุบันก็จะอาจจะย้ายในปีนี้ ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับผลของการศึกษา โดยหากย้ายรวมกันได้ก็จะช่วยลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ”
นายอิทธิพัทธ์ กล่าว
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปีนี้ คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทย และประเทศจีน ที่สร้างรายได้หลักถึง 72% ขณะที่ตลาดประเทศอื่น ๆ อีกว่า 40 ประเทศที่บริษัทจำหน่ายสินค้าไปคาดว่าจะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 63)
Tags: TKN, ผลประกอบการ, หุ้นไทย, อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์, เถ้าแก่น้อย, เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง