กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปดิ่งลง 0.8% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในเดือนธ.ค.2551 และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนมี.ค.
ดัชนี CPI ทั่วไปได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน รวมทั้งราคาตั๋วเครื่องบิน และห้องพักโรงแรม โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปลดลง 0.8% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายปี
หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานดิ่งลง 0.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี 2500 หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 10 ปี
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นเพียง 1.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2554 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนมี.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 63)
Tags: CPI, ดัชนีราคาผู้บริโภค, สหรัฐ, เศรษฐกิจสหรัฐ