- ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.30 น.)
- ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยอดสะสม 3,009 คน (+5)
- รักษาหายแล้ว 2,794 คน (+7)
- ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 159 คน
- เสียชีวิตสะสม 56 คน (-)
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 3,009 ราย ขณะที่มีผู้ที่หายป่วยเพิ่มขึ้น 7 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ที่หายป่วยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,794 ราย โดยวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 56 ราย ขณะที่ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 159 ราย
สำหรับผู้ป่วยใหม่ 5 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ ซึ่งมาจากกลุ่มที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้จำนวน 2 ราย โดยเป็นผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 44 ปี ภูมิลำเนากรุงเทพฯ มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน เริ่มมีอาการไอ หายใจลำบาก ถ่ายเหลวในวันที่ 5 พ.ค. และผู้ป่วยชายไทย อายุ 80 ปี ภูมิลำเนาจ.นราธิวาส เป็นผู้สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้
ส่วนผู้ป่วยอีก 3 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าสู่สถานที่กักกันตัวของรัฐ (State Quarantine) โดยเป็นหญิงไทย อายุ 41 ปี กลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ส่วนอีก 2 รายที่เหลือเป็นชายไทย อายุ 26 และ 27 ปีตามลำดับ เป็นนักศึกษา กลับจากปากีสถาน เมื่อวันที่ 7 พ.ค. และมีอาการป่วยขณะพักที่ State Quarantine
อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการจากจ.ภูเก็ต ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่อีก 4 ราย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ถูกนับรวมในยอดผู้ป่วยใหม่ของวันนี้ เพราะยอดผู้ป่วยใหม่ 5 รายของวันนี้ตัดยอดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (9 พ.ค.) ขณะที่ผู้ป่วยใหม่ 4 รายเพิ่งจะมีผลแล็ปออกมาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งจะมีการรายงานผลอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) โดยผู้ป่วยทั้ง 4 ราย ได้เข้ารับการรักษาทุกราย และจะทำการสอบสวนทางระบาดวิทยาเพิ่มเติมต่อไป
“ภูเก็ตเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีการแพร่ระบาดมาก่อนหน้านี้ คนที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตหรือเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนหลักหมื่นเดินทางออกจากภูเก็ตไปยังจังหวัดต่าง ๆ เมื่อวานรายงานไปว่ามีติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 รายก็มีประวัติเดินทางมาจากภูเก็ต คนที่เดินทางทั้งหลายต้องดูแลตัวเอง ท่านมีภาวะเสี่ยง ถ้ามีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งที่เคยบอก บางคนแค่คัดจมูก การรับรู้กลิ่นของจมูกไม่ดี มีไข้ หรือเดินทางมาจากภูเก็ตก็ไปขอรับการตรวจได้เลย ตอนนี้เราสามารถคุมตัวเลขได้หลักเดียวเพราะระบบของการควบคุมป้องกันที่ดี”
นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อพิจารณารายจังหวัดพบว่ามีรายงานในกลุ่มที่ไม่มีผู้ป่วยในระยะเวลา 28 วันที่ผ่านมา เพิ่มเติม 1 จังหวัด คือ สมุทรสาคร ทำให้มียอดรวมเพิ่มเป็น 45 จังหวัด และ 9 จังหวัดไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อนหน้านี้ ส่วนในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาที่มีรายงานผู้ป่วยใหม่ยังมีอยู่ 23 จังหวัด
ด้านข้อมูลสถานการณ์ผู้เดินทางเข้าประเทศที่ต้องกักตัวใน State Quarantine/Local Quarantine ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.- 9 พ.ค. ยอดสะสมอยู่ที่ 15,699 ราย กลับบ้านได้แล้ว 6,229 ราย พบเชื้อสะสม 90 ราย
ส่วนข้อมูลด้านความมั่นคง พบการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน และห้ามรวมกลุ่มชุมนุมหรือมั่วสุม เพิ่มขึ้น โดยเหตุของการออกนอกเคหสถาน 3 ลำดับแรก ได้แก่ การออกมาทำธุระ อื่น ๆ และ เดินทางกลับที่พัก ขณะที่เหตุการชุมนุมหรือมั่วสุม 3 ลำดับแรก ได้แก่ ดื่มสุรา ลักลอบเล่นการพนัน และอื่น ๆ
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 4,100,778 ราย อาการหนักราว 47,000 ราย เสียชีวิตประมาณ 280,000 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จำนวนประมาณ 1,300,000 ราย อันดับ 2 สเปน จำนวนประมาณ 260,000 ราย อันดับ 3 อิตาลี จำนวนประมาณ 210,000 ราย สำหรับประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 66 จำนวน 3,009 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ระยะที่ 2 เพื่อให้กลับมาเปิดเศรษฐกิจของประเทศจะมีขึ้นหลังผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการนำเสนอหลายรูปแบบการผ่อนคลายเพื่อให้ที่ประชุมตัดสิน ทำให้จะยังไม่มีการผ่อนปรนให้ทดลองเปิดห้างสรรพสินค้าในช่วงวันที่ 14-15 พ.ค.นี้แต่อย่างใด ส่วนการจะกลับมาเปิดในรูปแบบใดคงต้องรอที่ประชุมตัดสินออกมาก่อน
“โรงภาพยนตร์จะเปิดหรือไม่ ต้องผ่านกระบวนการของการประชุมปรึกษาแล้วเข้าศบค.ชุดใหญ่ก่อน มาตรการระยะ 2-3 ชุดกิจการ กิจกรรม ยังไม่ได้กำหนดว่าชุดไหนจะอยู่ที่ระยะไหน ระยะ 2 ระยะ 3 หรือระยะ 4 ถ้าโดยคร่าว ๆ ก็จะจัดเรียงตามความเสี่ยงของการติดโรค ถ้าพร้อมในระยะที่เราจะเปิดระยะ 2 ที่ว่าก็จะทำให้ทุก ๆ อย่างกลับมาโดยเร็วได้ แต่ยังไม่เห็นอยู่ในระยะ 2 ยังไม่มีตรงนี้ ส่วนการผ่อนปรนทดลองเปิดห้างในวันที่ 14-15 นี้ การทดลองที่พูดไปว่าเป็นการทดลองเป็น SANDBOX เป็น 1 ห้าง 2 ห้าง ตกลงแล้วเป็นเพียงแค่ 1 การออกแบบในรูปแบบวิธีการที่จะมีการทดลองดำเนินการ ซึ่งยังไม่มีข้อสรุป ข้อสรุปจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ที่ประชุมใหญ่ศบค. จะเป็นคนตัดสิน”
นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ระบบ SANDBOX จะเป็นรูปแบบหนึ่งที่อาจจะให้เปิดบางห้างสรรพสินค้า ขณะที่รูปแบบที่สองที่มีการหารือเบื้องต้น จะเป็นการทยอยเปิดบางกิจการในทุกห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีการเปิดในบางกิจกรรมอยู่แล้วอาจจะเป็นพื้นที่ 20% ก็อาจจะขยายเป็น 30-50% ตามกิจกรรมที่จะเปิดเพิ่มเติม แต่ต้องรอให้ที่ประชุมใหญ่ศบค.เป็นคนตัดสิน เพราะที่ประชุมศบค.ชุดเล็กไม่มีอำนาจตัดสินในเรื่องนี้ได้
สำหรับการที่จะทำให้มาตรการคลายล็อกดาวน์ประสบความสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับ 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ ผู้ประกอบกิจการ ,ผู้ใช้บริการ และผู้ที่กำกับดูแล เพราะเรื่องเหล่านี้มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันและเศรษฐกิจ แต่ต้องไม่ทำให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยยังต้องควบคุมโรคให้ได้และคงตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในตัวเลขหลักเดียวต่อเนื่องไปยาวนาน ขณะเดียวกันก็จะมีการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ,ผู้ต้องขังแรกรับ หรือผู้ต้องกักตัวใน State Quarantine ,คนขับรถสาธารณะ ,พนักงานไปรษณีย์ หรือส่งของ , กลุ่มแรงงานต่างด้าว และกลุ่มอาชีพเสี่ยง ในผับ บาร์ หรือสถานบันเทิง โดยทั้ง 6 กลุ่มนี้จะต้องได้รับการตรวจหาเชื้ออย่างเป็นระยะ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ค. 63)
Tags: COVID-19, ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน, ผู้ติดเชื้อ, ผู้เสียชีวิต, ศบค., โควิด-19