สาธารณสุข เตือนปชช.เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่สีเหลือง สีส้ม สีแดง แนะเช็คค่าฝุ่นบ่อยๆ
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขขอแนะนำประชาชนให้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เนื่องจากค่าฝุ่นละอองในแต่ละวันไม่เท่ากัน
ควรปรับกิจกรรมการดำเนินชีวิตประจำวัน เน้นความปลอดภัยของตนเอง โดยติดตามได้ที่แอพพลิเคชัน Air4Thai (แอร์ ฟอร์ ไทย) หรือเพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5”
หากอยู่ในพื้นที่สีเหลือง สีส้ม สีแดง ควรหลีกเลี่ยงหรืองดกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ไม่ควรอยู่นอกบ้านเป็นเวลานาน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรพักผ่อนอยู่ในบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ดูแลทำความสะอาดบ้านให้ปลอดฝุ่น ไม่จำเป็นไม่ควรพาไปในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองเยอะ
ทั้งนี้ ประชาชนควรหมั่นสังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้น หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์
นายกฯ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ติดตามประเมินสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างใกล้ชิด และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม เร่งแก้ปัญหา ทั้งระยะสั้นและระยะยาว พร้อมทั้งแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง และข้อควรปฏิบัติ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยคุณภาพดีที่สามารถป้องกันฝุ่นได้ พร้อมทั้งให้สังเกตอาการทางสุขภาพเบื้องต้น หากผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในวันเด็กแห่งชาติในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ทส. โดยศูนย์ประสานงานและแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละอองและหมอกควัน (ศปฝ.คพ.) ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ “แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” โดยได้ประสานให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการในการควบคุมฝุ่นละอองจากจากแหล่งกำเนิดมลพิษ ประกอบด้วย บก.จร., สตช. ดำเนินการยกระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบ/ตรวจวัดควันดำ โดยตั้งจุดตรวจให้เต็มกำลัง (โดยปกติจะดำเนินการเมื่อค่าฝุ่น เกินมาตรฐานเป็นสีแดง) โดยตั้งชุดปฏิบัติการฯ ตรวจวัดควันดำ ทั้งหมด 17 ชุด ในวันศุกร์ ที่ 10 ม.ค.นี้ และกำชับให้ สน. 3 แห่ง ได้แก่ สน.ตลิ่งชัน/สน.ธรรมศาลา และสน.คู่ขนานลอยฟ้า เข้มงวดการห้ามรถบรรทุกเข้าเขตกรุงเทพมหานครตามช่วงเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เข้มงวดไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง /ดำเนินการควบคุมและลดฝุ่น จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าและการก่อสร้างประเภทอื่นๆ ด้านกรมการขนส่งทางบก ดำเนินการให้ชุดตรวจการทั้ง 16 ชุด (ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมาตรการขั้นสูงสุด ) เข้มงวด/ตรวจจับควันดำรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถโดยสาร แจ้ง/ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ไม่มีการนำรถบรรทุกสินค้าทุกประเภท(ยกเว้นสินค้าที่จำเป็น เช่น ของสด) เข้ามาในเขตชั้นในของพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ขณะที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ดำเนินการควบคุมการระบายมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม อย่างเข้มงวด / แจ้งกับโรงงานอุตสาหกรรม ในการลดกำลังการผลิตในช่วงสถานการณ์ฝุ่นละอองสูง
ในส่วนจังหวัดปริมณฑล 5 จังหวัด ดำเนินการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษทุกประเภททั้งยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม การเผาในที่โล่ง การก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หน่วยงานต่างๆได้เร่งปฏิบัติการลดปริมาณฝุ่นในอากาศ ทั้งมาตรการระยะเร่งด่วน และระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ละเลยเพิกเฉยต่อปัญหาดังกล่าว และขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไปด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ม.ค. 63)
Tags: PM2.5, กรมควบคุมมลพิษ, กระทรวงสาธารณสุข, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ฝุ่นพิษ, มลพิษ