เรืออากาศโทชัยรัตน์ ทองบริบูรณ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า กคช.ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนที่เป็นผู้อาศัยในโครงการฯ และผู้ประกอบการร้านค้าที่เช่าแผงตลาด เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยแบ่งเป็นมาตรการด้านการดูแล และมาตรการด้านการเงิน
โดยมาตรการดูแลนั้น แบ่งเป็น 3 มาตรการย่อย ได้แก่ มาตรการป้องกัน มาตรการเผชิญเหตุ และมาตรการฟื้นฟูเยียวยา โดยมาตรการป้องกัน กคช.มีโครงการที่อยู่อาศัย 807 แห่งทั่วประเทศ ได้เข้าไปทำแผนป้องกัน ทำความสะอาด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 แจกหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ รวมทั้งให้ความรู้ในการป้องกันตนเองกับผู้อยู่อาศัย ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 312 โครงการ และกำลังเร่งดำเนินการในโครงการที่เหลือให้ครบทั้งหมดโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการฯ
ส่วนมาตรการเผชิญเหตุจะมีการสำรวจกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อไวรัส โดยประสานข้อมูลไปยังกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งอยู่ระหว่างจัดหาสถานที่รองรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จำเป็นต้องกักตัว โดยได้ร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคีเครือข่ายจัดหาอาหารเครื่องอุปโภคบริโภค ทำเป็นถุงยังชีพแจกจ่ายให้กับผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงในชุมชน ซึ่งได้แจกจ่ายแล้วจำนวน 539 ชุด
ขณะที่มาตรการฟื้นฟูเยียวยา แม้ภาครัฐจะมีนโยบายในการช่วยเหลือฟื้นฟูอาชีพ แต่ประชาชนบางกลุ่มอาจเข้าไม่ถึง ดังนั้น ลูกค้าสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ กคช.ทั่วประเทศให้ช่วยลงทะเบียนในระบบสมาร์ทโฟน เพื่อรวบรวมข้อมูลของท่านนำส่งต่อให้กับกระทรวงแรงงานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาอาชีพต่อไป
สำหรับมาตรการด้านการเงินนั้นมี 4 มาตรการ ได้แก่ มาตรการพักชำระหนี้ค่าเช่าซื้อ 3 เดือน ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าสัญญาเช่าซื้ออาคาร อาคารพร้อมที่ดินที่ดินแปลงโล่ง โดยสัญญาเช่าซื้อจะถูกขยายเวลาออกไป 3 เดือน, มาตรการพักชำระเงินมัดจำ/เงินจอง (เงินดาวน์) 3 เดือน สำหรับลูกค้าสัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญาจอง โดยสัญญาจะถูกขยายระยะเวลาออกไปอีก 3 เดือน, มาตรการปลอดค่าเช่า 3 เดือน สำหรับลูกค้าสัญญาเช่าอาคาร/อาคารพร้อมที่ดิน/ที่ดิน แผงตลาดร้านค้ารายย่อยที่ทำสัญญาโดยตรงกับ กคช. และผู้เช่ารายย่อยที่ทำสัญญาเช่ากับผู้เช่าเหมาอาคาร และมาตรการลดค่าเช่า 50% เป็นเวลา 3 เดือน ให้กับผู้เช่าร้านค้ารายย่อยในพื้นที่พลาซ่า หรือแผงตลาดที่ได้ทำสัญญาเช่ากับผู้เช่าเหมาบริหารพื้นที่กับ กคช. โดยกำหนดให้ผู้เช่ารายใหญ่ต้องลดค่าเช่าให้ผู้เช่ารายย่อยไม่น้อยกว่าที่ กคช.กำหนด ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิจะต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย ทำสัญญาเช่าซื้อ/สัญญาเช่า/สัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญาจองกับการเคหะแห่งชาติ หรือทำสัญญาเช่ากับผู้รับเหมาก่อนวันที่ 1 เมษายน 2563 และไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ (รวมพนักงานและลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ) พนักงานหรือลูกจ้างของรัฐหรือผู้รับบำนาญจากราชการ
ผู้ช่วยผู้ว่าการ กคช. กล่าวว่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และปฏิบัติตามคำแนะนำด้านการเว้นระยะห่างทางสังคม ลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กคช.ได้จัดทำช่องทางลงทะเบียนเป็น 2 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางที่ 1 ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://covid.nha.co.th และช่องทางที่ 2 ผ่านแอพพลิเคชั่น Line ID : @NHA.THAILAND เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าของการเคหะแห่งชาติ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เข้ามาลงทะเบียนเพื่อรับมาตรการช่วยเหลือ 4 มาตรการดังกล่าว
นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางสำหรับแจ้งข้อมูลข่าวสารของ กคช.ในการติดตามสถานการณ์โควิด-19 พร้อมกันนี้ กคช.จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเชื่อมโยงข้อมูลของประชาชนที่อยู่อาศัยในโครงการของ กคช.ที่ได้รับผลกระทบส่งต่อให้กับกระทรวงการคลังกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับชาวชุมชนการเคหะและผู้ค้าที่ทำมาหากินบนพื้นที่ของ กคช.ได้เข้าถึงมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐในการฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยเปิดให้ลงทะเบียนแล้วตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 เม.ย. 63)
Tags: กคช., การเคหะแห่งชาติ, ชัยรัตน์ ทองบริบูรณ์, ที่อยู่อาศัย