ภายหลังปรับโครงสร้างจะลงทุนโซลาร์ฟาร์ม 10 แห่งแล้วเสร็จ Q3/63
บมจ.ไทยแลนด์ไอออนเวิคส์ (TIW) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) อนุมัติการปรับโครงสร้างบริษัท ตามแผนการโอนธุรกิจเดิม ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 โดยจะโอนธุรกิจเดิม ได้แก่ ธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์แผ่นเหล็กชุบสังกะสี และแผ่นเหล็กชุบสังกะสีเคลือบสีทั้งแบบแผ่นและแบบม้วน รวมทั้งสิทธิ หนี้สิน ลูกหนี้ เจ้าหนี้ และความรับผิดใด ๆ รวมทั้งพนักงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิมให้แก่ บริษัท ทีไอดับบลิว อินดัสตรี่ จำกัด (TIWI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 99.99% และการเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงาน
ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างบริษัท และการเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานแล้วเสร็จ บริษัทจะเสมือนเป็น Holding Company โดยลงทุนใน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ทีไอดับบลิว อินดัสตรี่ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นเหล็กชุบสังกะสี และบริษัทย่อยที่จะจัดตั้งใหม่ ประกอบธุรกิจพลังงาน โดยบริษัทจะพิจารณาผลประกอบการของทั้งสองธุรกิจภายในช่วงระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่ได้เข้าลงทุนในธุรกิจพลังงาน และดำเนินการปรับโครงสร้างแล้วเสร็จ เพื่อพิจารณากำหนดบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักของบริษัทต่อไปภายใต้เกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้คณะกรรมการ ยังอนุมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการขายและเช่ากลับทรัพย์สินของบริษัท ได้แก่ ที่ดิน 2 แปลง เนื้อที่ 14 ไร่ 2 งาน 77.5 ตารางวา ,อาคารและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 8 หลัง เนื้อที่ 22,892.35 ตารางเมตร เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในธุรกิจผลิต จำนวน 59 รายการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 250 ล้านบาท เสนอขายให้กับบมจ.ไทยคอนส์ แอนด์ บิลดิ้ง เมนูแฟ็คเจอริ่ง (TCB) ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกับบริษัท ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินและกระแสเงินสดของบริษัท อย่างไรก็ตามบริษัทจะดำเนินการเช่าทรัพย์สินดังกล่าวกลับมาเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อไป
พร้อมกันนี้ให้ TIWI เข้าทำสัญญาเช่าทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดิน อาคาร และเครื่องจักร พร้อมอุปกรณ์จาก TCB เพื่อใช้ประกอบกิจการผลิตแผ่นเหล็กชุบสังกะสีและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในอัตราค่าเช่าตลอดอายุสัญญาเป็นเงิน 80 ล้านบาท มีระยะเวลาเช่า 10 ปี และ TIWI จะจ่ายค่าเช่าเป็นรายปี ในอัตราปีละ 8 ล้านบาท และมีสิทธิต่อสัญญาเช่า โดยการแจ้งความประสงค์ให้ผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้าเป็นรายลักษณ์อักษรถึงความประสงค์ที่จะต่ออายุอย่างน้อย 3 เดือนก่อนระยะเวลาการเช่าสิ้นสุดลง
คณะกรรมการบริษัท ยังอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น พิจารณาอนุมัติการเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงาน โดยบริษัทย่อยที่จะจัดตั้งใหม่ซึ่งบริษัทถือหุ้น 99.99% เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ 8 บริษัท ได้แก่ บริษัท สกาย โซล่าร์ รูฟ จำกัด (SSR) บริษัท สกาย โซล่าร์ พาวเวอร์ จำกัด (SSP) บริษัท เอ็น ดับเบิลยู กรีน พาวเวอร์ จำกัด (NGP) บริษัท เอ็น ดับเบิลยู เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (NWG) บริษัท เอ็น ดับเบิลยู โซล่าร์ จำกัด (NSL) บริษัท ซันนี่ โซล่า จำกัด (SSL) บริษัท ซัน ลิงค์ พาวเวอร์ จำกัด (SLP) และบริษัท โซล่าร์ ทาวน์ จำกัด (SLT) ซึ่งรวมเรียกว่ากลุ่มกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 10 โครงการ กำลังการผลิตรวม 7.825 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วทั้งหมด
โดยเป็นการซื้อกิจการดังกล่าวจากบริษัท ลีฟวิง เอ็นเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.ซีออยล์ (SEAOIL) มูลค่าทั้งสิ้น 215 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/63
สำหรับแหล่งเงินลงทุนเพื่อใช้ซื้อกิจการพลังงาน จะมาจากการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัท ได้แก่ ที่ดิน อาคาร เครื่องจักรและอุปกรณ์ และเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท โดยการลงทุนธุรกิจพลังงานจะทำให้ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้เพียงธุรกิจเดียว คือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายสังกะสีและผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ธุรกิจพลังงานดังกล่าวมีผลตอบแทนที่ค่อนข้างแน่นอน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต โดยบริษัทประเมินผลตอบแทนภายใน (IRR) ตลอดอายุสัญญาไม่ต่ำกว่า 9%
ทั้งนี้ บริษัทกำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2563 ในวันที่ 9 มิ.ย.63 เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 63)
Tags: TIW, ทีไอดับบลิว อินดัสตรี่, ธุรกิจเหล็ก, หุ้นไทย, ไทยแลนด์ไอออนเวิคส์