ดัชนีกลุ่มแบงก์ร่วง 3.76% มาอยู่ที่ 276.44 จุด ลดลง 10.79 จุด เมื่อเวลา 10.50 น. นำดิ่งโดยหุ้น BBL (ขึ้น XD) ร่วง 7.21% มาอยู่ที่ 103 บาท ลดลง 8 บาท มูลค่าซื้อขาย 594.38 ล้านบาท
- หุ้น KBANK ร่วง 5.67% มาอยู่ที่ 91.50 บาท ลดลง 5.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 772.74 ล้านบาท
- หุ้น SCB ลบ 4.30% มาอยู่ที่ 66.75 บาท ลดลง 3 บาท มูลค่าซื้อขาย 470.22 ล้านบาท
- หุ้น KTB ลบ 2.75% มาอยู่ที่ 10.60 บาท ลดลง 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 138.06 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ธนาคาร 8 แห่งมีกำไร 4.37 หมื่นลบ. +6% Q-Q, -17% Y-Y ธนาคารที่กำไรดีกว่าคาดคือ BAY, SCB, TMB ส่วน KBANK, TISCO ต่ำกว่าคาด ภาพรวมกำไรของกลุ่มในไตรมาส 1/63 ดีกว่าที่ควรจะเป็นเพราะยังไม่เห็นผลของ โควิด-19 เต็มที่ NPL ไม่สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริงเพราะมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ มองไปข้างหน้าคุณภาพหนี้ยังน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะ SMEs ยังไม่แนะนำให้ลงทุนในหุ้นแบงก์ใหญ่แม้ราคาหุ้นจะถูกก็ตาม
ขณะที่บทวิเคราะห์ของ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุว่า ผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคาร KBANK และ BBL รายงานกำไรปรับลดลง สาเหตุหลักมาจากการปรับลดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนที่ผันผวนจากภาวะตลาดที่เริ่มรับรู้จากการใช้มาตรฐาน IFRS9 ซึ่งผลกระทบดังกล่าวน่าจะชะลอลงในไตรมาส 2/63 อย่างไรก็ตาม กลุ่มธนาคารยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและคุณภาพของลูกหนี้ที่อ่อนแอลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 63)
Tags: BANK, BBL, KBANK, SCB, TISCO, กลุ่มแบงก์, ตลาดหุ้นไทย, ฟินันเซีย ไซรัส, ยูโอบี เคย์เฮียน, หุ้นไทย