ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) อาจกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะนี้ อาเซียนมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 28,000 ราย โดยสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซียคิดเป็นสัดส่วน 87.9% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด
ถึงแม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอาเซียนยังคงต่ำกว่าในสหรัฐและยุโรป ซึ่งมีจำนวนหลายแสนราย แต่ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียนอาจมากกว่าที่มีการรายงานหลายหมื่นคน เนื่องจากหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ มีอัตราการตรวจหาผู้ติดเชื้อในระดับต่ำ
ทางด้านสิงคโปร์เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 1,426 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ขณะนี้สิงคโปร์มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมรวม 8,014 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียน และแซงหน้าอินโดนีเซีย ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 6,760 ราย
จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,426 รายของสิงคโปร์ ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในหอพัก และมีเพียง 16 รายเท่านั้นที่เป็นชาวสิงคโปร์ หรือผู้พำนักอาศัยถาวรในสิงคโปร์
นอกจากนี้ สิงคโปร์มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 11 ราย แต่ต่ำกว่าอินโดนีเซีย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในภูมิภาค จำนวน 590 ราย
“ความจริงก็คือ จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงพุ่งขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
นายไซมอน เทย์ ประธานสถาบันกิจการระหว่างประเทศของสิงคโปร์ กล่าว
นอกจากนี้ นายเทย์ยังเรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศต่างๆดำเนินการอย่างรวดเร็วในการควบคุมการแพร่ระบาด ขณะที่ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียจะต้องเพิ่มอัตราการตรวจหาผู้ติดเชื้อ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 เม.ย. 63)
Tags: COVID-19, มาเลเซีย, ยอดผู้ติดเชื้อ, สิงคโปร์, อาเซียน, อินโดนีเซีย, โควิด-19, ไซมอน เทย์