ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงยืนยันว่า ไม่มีทหารอเมริกันเสียชีวิตจากการที่อิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐในอิรัก และไม่ได้ระบุถึงการใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อตอบโต้อิหร่าน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ในเดือนธ.ค.
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,745.09 จุด เพิ่มขึ้น 161.41 จุด หรือ +0.56%
- ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,253.05 จุด เพิ่มขึ้น 15.87 จุด หรือ +0.49%
- ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,129.24 จุด เพิ่มขึ้น 60.66 จุด หรือ +0.67%
นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวแถลงการณ์ต่อชาวอเมริกันเมื่อวานนี้ โดยยืนยันว่า ไม่มีชาวอเมริกันที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากการที่อิหร่านใช้ขีปนาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรักเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันปธน.ทรัมป์ไม่ได้ระบุถึงการใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อตอบโต้อิหร่าน โดยกล่าวเพียงว่าสหรัฐกำลังพิจารณาทางเลือกในการตอบโต้อิหร่าน โดยจะใช้วิธีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า อิหร่านมีท่าทีที่อ่อนลง หลังการโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรัก ซึ่งคำพูดดังกล่าวของปธน.ทรัมป์สอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายโมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านที่กล่าวว่า การโจมตีฐานทัพสหรัฐเป็นไปอย่างเหมาะสม และอิหร่านไม่ต้องการเพิ่มความขัดแย้ง หรือการทำสงคราม
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.59% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ทะยานขึ้น 2.57% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล บวก 0.7% หุ้น Nvidia บวก 0.2% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ดีดตัวขึ้น 1.03%
หุ้นเมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายขยับลงเพียง 0.6% ในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายจะลดลง 1.75%
หุ้นเลนนาร์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 0.8% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 4
หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1.7% หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินยูเครน อินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ ตกในอิหร่าน เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือราว 180 คนเสียชีวิตทั้งหมด
หุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาของสหรัฐ ดิ่งลง 5.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า กำไรในช่วงเดือนก.ย.-พ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาสแรกตามปีงบการเงินของบริษัท อยู่ที่ระดับ 1.37 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.41 ดอลลาร์/หุ้น
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.1% หุ้นเอ็กซอนโมบิล ดิ่งลง 1.5% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ลดลง 0.6% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ร่วงลง 1.08% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 2.5% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทรุดลง 8.3%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของภาคเอกชนสหรัฐ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 202,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย.
ข่าวน่าสนใจ
- บิตคอยน์ร่วงหลุด 8,000 ดอลลาร์เช้านี้ หลังทรัมป์ส่งสัญญาณไม่ตอบโต้อิหร่าน
- “ทรัมป์”ยันไม่มีทหารสหรัฐเสียชีวิตจากการโจมตี เตรียมคว่ำบาตรตอบโต้อิหร่าน
- โอเปกพร้อมเพิ่มกำลังการผลิต หากศึกสหรัฐ-อิหร่านกระทบการขนส่งน้ำมัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 63)