พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางไป รพ.ศิริราช เพื่อตรวจติดตามการใช้งานระบบ AI (Artificial Intelligence) ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี ประเทศไทย จำกัด นำไปติดตั้งเป็นอุปกรณ์ช่วยแพทย์พยาบาลวิเคราะห์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
โดยจะสามารถตรวจสอบได้ว่าคนไข้ที่มารับการรักษามีความเสี่ยงติดเชื้อหรือไม่ โดยระบบนี้ถูกนำไปใช้จริงในประเทศจีน ทั้งในเมืองอู่ฮั่น และอีกหลายๆ เมือง ในส่วนของประเทศไทยได้ติดตั้งแล้วที่ รพ.รามาธิบดี รพ.ศิริราช และจะขยายต่อไปยัง รพ.อื่นๆ ด้วย
สำหรับระบบ AI ดังกล่าวจะเก็บข้อมูลตัวอย่างผลเอ็กซเรย์ปอดของคนไข้ราว 20,000 ราย ในจำนวนนี้มีผลเอ็กซเรย์ของผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ 4,000 ราย ดังนั้นเมื่อแพทย์พยาบาลทำ CT scan เพื่อเอ็กซเรย์ปอดของคนไข้ ระบบจะนำผลจากการเอ็กซเรย์ไปเปรียบเทียบกับตัวอย่างภาพเอ็กซเรย์เพื่อวินิจฉัยว่าคนไข้เข้าข่ายเป็นผู้ป่วยโควิด-19 หรือไม่ โดยการวิเคราะฟ์แต่ละรายใช้เวลาเพียง 25 วินาทีเท่านั้น เพราะระบบรองรับด้วยเครือข่าย 5G ซึ่งถือว่ารวดเร็วและแม่นยำมาก
ทั้งนี้จะเป็นการช่วยลดความเสี่ยง ทั้งประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างมาก เนื่องจากการทำ CT Scan ช่วยให้แพทย์ไม่ต้องสัมผัสกับคนไข้เวลาคัดกรองที่พบว่ามีความเสี่ยงสูง จากนั้นจึงค่อยเข้าสู่กระบวนการตรวจสารคัดหลั่งซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมง ในการยืนยันผล
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ เพื่อสอบถามการปฏิบัติงานและให้กำลังใจทุกคน โดยย้ำว่าตนเองและรัฐบาลยกย่องการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นหลักในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งต้องเสียสละ ทำงานหนัก และมีความเสี่ยงอย่างมาก และยินดีสนับสนุนทุกวิถีทาง เพื่อดูแลช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ ครม.ได้อนุมัติให้เงินพิเศษ ให้โควต้า 2 ขั้น อายุราชการทวีคูณ จ่ายเงินบุคลากรที่ติดเชื้อ และทำประกันสุขภาพให้ 320,000 กรมธรรม์ เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 เม.ย. 63)
Tags: Artificial Intelligence, COVID-19, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ศิริราช, หัวเว่ย, โควิด-19