นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางเงิน (ศคง.) ธปท. ได้เปิดช่องทาง “ทางด่วนแก้หนี้” ขึ้นเพื่อเป็นช่องทางเสริมสำหรับประชาชนและธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือต้องการความช่วยเหลือให้สามารถแจ้งความต้องการไปที่สถาบันการเงิน
ช่องทางนี้เป็น “ช่องทางเสริม” ในช่วงที่มาตรการเว้นระยะทางสังคมเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจทำให้ลูกหนี้ (1) ไม่สามารถติดต่อสถาบันการเงิน เนื่องจากมีคนติดต่อเข้าไปจำนวนมาก หรือ (2) กรณีที่ลูกหนี้ติดต่อสถาบันการเงินแล้ว แต่ไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกัน เช่น คุณสมบัติไม่ผ่าน หรือแม้มีมาตรการผ่อนปรนของสถาบันการเงิน ลูกหนี้ก็ยังจ่ายชำระหนี้ไม่ได้
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้รับผ่านช่องทางนี้จะถูกส่งต่อไปยังสถาบันการเงิน ซึ่งการพิจารณาจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละ สถาบันการเงิน อย่างไรก็ดี กรณีที่สถาบันการเงินไม่สามารถรับข้อเสนอของลูกหนี้ ขอให้สถาบันการเงินระบุเหตุผลเพื่อ ธปท. จะเข้าไปดูว่ามีอะไรที่พอจะทำได้บ้างที่จะไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายหาข้อยุติร่วมกัน และเดินต่อไปด้วยกันได้
“ช่วงนี้ ธปท. ติดตามสถานการณ์ผลกระทบทางเศรษฐกิจของวิกฤตโควิดอย่างใกล้ชิด เพราะตระหนักดีว่าประชาชนโดยเฉพาะรายย่อย รวมทั้งธุรกิจ SME จำนวนมากกำลังเดือดร้อนจากรายได้ลดลงจากผลของมาตรการ lockdown” นางธัญญนิตย์กล่าว
พร้อมระบุว่า ปัจจุบัน ธปท.ได้จับชีพจรความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจ ภายใต้วิกฤติโควิดอย่างใกล้ชิด โดยให้ Call center ของ ศคง. หรือ โทร. 1213 ทั้ง 4 ภาค เป็นกองหน้ารับปัญหา เพื่อประเมินว่าสถาบันการเงินกับลูกหนี้คุยกันได้หรือไม่ มีปัญหาจุดใดบ้างที่ต้องเร่งแก้ไข ซึ่งถ้าเกี่ยวกับสถาบันการเงินที่ ธปท. กำกับดูแลโดยตรง การแก้ไขจะง่ายและเร็ว และถึงแม้เรื่องนั้นไม่อยู่ในกำกับ ธปท.ยินดีเป็นตัวกลางประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขต่อไป
“ตรงนี้ทำให้เห็นว่า กระบวนการในปัจจุบันยังมีช่องว่าง (gap) ทั้งในส่วนที่ประชาชนติดต่อสถาบันการเงินไม่ได้ หรือกรณีที่สถาบันการเงิน และลูกหนี้ยังหาข้อยุติร่วมกันไม่ได้ จึงเป็นที่มาของ “ทางด่วนแก้หนี้” ที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ตรงจุดมากขึ้น และช่วยลูกหนี้ในการเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ที่จะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันทางการเงินในช่วงวิกฤตินี้” นางธัญญนิตย์กล่าว
สำหรับขั้นตอนดำเนินการนั้น ขอให้ลูกหนี้ติดต่อสถาบันการเงินก่อนเป็นอันดับแรก เพราะสถาบันการเงินแต่ละแห่งมีมาตรการช่วยเหลือผ่อนปรน แต่ถ้าติดต่อแล้วเรื่องไม่คืบหน้า หรือข้อเสนอที่ได้รับยังไม่อาจบรรเทาภาระได้ ขอให้มาใช้ช่องทาง “ทางด่วนแก้หนี้” เพื่อเป็นช่องทางเสริม และประสานความช่วยเหลือครั้งนี้ไปยังสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ ลูกหนี้บางส่วนยังไม่ทราบว่ามาตรการช่วยเหลือที่สถาบันการเงินประกาศ เป็นเพียงมาตรการช่วยเหลือขั้นต่ำของแต่ละแห่งเท่านั้น ลูกหนี้ยังสามารถเจรจาขอให้สถาบันการเงินพิจารณาผ่อนปรนเพิ่มเติมได้ในหลายรูปแบบ ถ้าเห็นว่ายังผ่อนชำระไม่ไหว เช่น ลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
สำหรับลูกหนี้ที่มีปัญหาการติดต่อสถาบันการเงิน หรือยังไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันกับสถาบันการเงิน ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ยินดีให้คำปรึกษาโดยท่านสามารถติดต่อได้ที่ โทร. 1213 วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น. หรือ แจ้งความต้องการที่จะปรับโครงสร้างหนี้ไปยัง สง. ผ่าน “ทางด่วนแก้หนี้” เว็บไซต์ http://www.1213.or.th/th/Pages/ทางด่วนแก้หนี้.aspx ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“ธปท. คาดหวังว่าสถาบันการเงินและลูกหนี้ จะใช้ช่วงที่มีการพักชำระหนี้ หรือช่วง debt payment holiday หารือและปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกัน เพื่อปรับแผนการผ่อนชำระให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง ซึ่งเรื่องนี้จะมีความสำคัญมากสำหรับเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า” นางธัญญนิตย์ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 เม.ย. 63)
Tags: ทางด่วนแก้หนี้, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธปท., ธัญญนิตย์ นิยมการ, เว้นระยะห่างทางสังคม