เงินบาทเปิด 32.72 ต่อดอลล์ ธุรกรรมเบาบาง หลังหลายตลาดหยุดเทศกาลอีสเตอร์

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.72 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 32.67 บาท/ดอลลาร์ แต่ภาพรวมตลาดยังไร้ทิศทาง ขณะที่มีบางตลาดปิดทำการเนื่องในเทศกาลอีสท์เตอร์ วันนี้อาจมีปริมาณธุรกรรมเบาบาง โดยปัจจัยที่นักลงทุนจับตาดูเป็นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ

“บาทอ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์ แต่ตลาดยังไร้ทิศทาง วันนี้ธุรกรรมอาจเบาบางเพราะบางตลาดปิดทำการเพราะหยุดเทศกาลอีสเตอร์” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.60-32.80 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (10 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.23581% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.17436%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.8050 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 108.19 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 108.43 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0927 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0947 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6750 บาท/ดอลลาร์
  • ซีอีโอประสานเสียงวิกฤติโควิด-19 กระทบหนักกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง เหตุผลกระทบลามทุกภาคส่วนทั่วโลก ชี้เศรษฐกิจหลังโควิด โจทย์ใหญ่ ประเทศ ธุรกิจแข่งบนฐานความรู้ใหม่ หนุนมาตรการรัฐอัดยาแรง จบวิกฤติให้เร็ว ก่อนธุรกิจอั้นไม่ไหวขาดสภาพคล่องปลดแรงงาน
  • ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ปลายเดือน พ.ค.นี้ คาดว่าพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จะสามารถนำมาใช้ได้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลต้องการใช้งบกลางเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากไวรัสโควิด-19 โดยประเมินว่า งบกลางที่ดึงกลับมาได้ 80,000-100,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีงบกลางเหลืออยู่เพียง 3,000 ล้านบาท
  • อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่องค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) คาดการณ์การค้าสินค้าของโลกในปี 63 จะติดลบ 13-32% เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ถือเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 10 ปี นับจากวิกฤติซับไพรม์เมื่อปี 51-52 ว่า เมื่อการค้าโลกลดลงย่อมส่งผลต่อการส่งออกไทยด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะทำให้การส่งออกของไทยติดลบ หรือขยายตัวเป็นบวกได้ตามเป้าหมายหรือไม่
  • รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า ต้องติดตามแนวโน้มภาคการผลิตของไทยอย่างใกล้ชิด เพราะเริ่มเข้าสู่ภาวะอ่อนแอพบว่า เดือน ก.พ. 63 คลัสเตอร์อุตสาหกรรมหลัก 14 คลัสเตอร์ ยังมีมูลค่าส่งออกติดลบต่อเนื่อง เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องนุ่งห่ม เหล็ก เครื่องสำอาง หากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังยืดเยื้ออีก 1-2 เดือน จะส่งผลกระทบให้กิจการรายกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) อาจปิดตัวลง หรือเลิกจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น
  • “ไอเอ็มเอฟ” สั่งอนุมัติการเพิ่มเงินทุนฉุกเฉินเป็นสองเท่าเพื่อตอบสนองคำขอของกว่า 90 ประเทศ หลังสถานการณ์โควิด-19 ทำเศรษฐกิจโลกพัง ชี้ตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนามีผลกระทบมากที่สุด พร้อมจี้ประเทศเจ้าหนี้ ให้พักหนี้กับประเทศที่กำลังประสบปัญหา
  • ตลาดทองคำและตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการวันศุกร์ที่ 10 เม.ย. เนื่องในวัน Good Friday
  • สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) เปิดเผยผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 45 รายระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงในระยะสั้นแล้ว และการว่างงานได้พุ่งสูงขึ้น แต่คาดว่าผู้บริโภคสหรัฐจะยังคงทำการใช้จ่ายต่อไป ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 เม.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top