ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งลงกว่า 400 จุดเช้านี้ หลังจากกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้ยิงขีปนาวุธแบบพื้นสู่พื้น (surface-to-surface) จำนวนหลายสิบลูก เข้าใส่ฐานทัพอากาศสหรัฐซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดอันบาร์ ทางตะวันตกของประเทศอิรัก เพื่อตอบโต้ที่กองทัพสหรัฐปลิดชีพนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่าน
ณ เวลา 07.48 น. ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 404 จุด หรือ 1.42% แตะที่ 28,122 จุด
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือเพนตากอน ยืนยันว่า อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกถล่มฐานทัพอากาศของสหรัฐในอิรัก พร้อมกับประกาศว่า สหรัฐจะมาตรการต่างๆที่เหมาะสม เพื่อปกป้องบุคลากรและบรรดาพันธมิตของสหรัฐ
ทางด้านทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังติดตามสถานการณ์การโจมตีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และกำลังหารือกับคณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐ
เมื่อคืนดาวโจนส์ปิดลบ 119.70 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด และบดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและบริษัทผลิตชิป ได้ช่วยจำกัดแรงลบในตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,583.68 จุด ลดลง 119.70 จุด หรือ -0.42% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,237.18 จุด ลดลง 9.10 จุด หรือ -0.28% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,068.58 จุด ลดลง 2.88 จุด หรือ -0.03%
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์มัลติ-พอร์ทโฟลิโอ โซลูชั่นส์ ในเมืองบอสตัน กล่าวว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น และเริ่มบานปลายกลายเป็นประเด็นการเมืองในสหรัฐ หลังจากสมาชิกพรรคเดโมแครตแสดงความไม่พอใจที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ขออนุมัติจากสภาคองเกรสก่อนที่จะสั่งโจมตีท่าอากาศยานกรุงแบกแดดของอิรัก เพื่อปลิดชีพนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่าน ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับอิหร่านเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเตรียมลงคะแนนเสียงในสัปดาห์นี้ เพื่อโหวตญัตติการจำกัดอำนาจของปธน.ทรัมป์ในกรณีการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่าน โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการยั่วยุของรัฐบาลปธน.ทรัมป์ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐ, นักการทูต และชาวอเมริกันตกอยู่ในอันตราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ม.ค. 63)