ดัชนีกลุ่มแบงก์ ร่วง 2.52% มาอยู่ที่ 277.69 จุด ลดลง 7.17 จุด เมื่อเวลา 14.30 น.โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ ได้แก่
หุ้น SCB ลบ 4.42% มาอยู่ที่ 70.25 บาท ลดลง 3.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 696.02 ล้านบาท
หุ้น TMB ลบ 3.41% มาอยู่ที่ 0.85 บาท ลดลง 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 103.69 ล้านบาท
หุ้น KTB ลบ 3.60% มาอยู่ที่ 10.70 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 280.51 ล้านบาท
หุ้น KBANK ลบ 3.08% มาอยู่ที่ 94.50 บาท ลดลง 3.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 426.22 ล้านบาท
ขณะที่ หุ้น KKP ร่วง 9.19% มาอยู่ที่ 42.00 บาท ลดลง 4.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 187.99 ล้านบาท โดยมีการขึ้นเครื่องหมาย XD วันนี้วันแรก เพื่อจ่ายปันผลหุ้นละ 2.75 บาท (รอบ 1 ก.ค.-31 ธ.ค.62)
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ตามที่ธนาคารประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่ม 0.4% วานนี้ 7 ธนาคาร (KBANK, BBL, SCB, KTB, TMB TBANK, BAY, CIMBT) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR, MOR และ MRR 0.40% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.63 เป็นต้นไป ซึ่งการปรับลดจะเป็นอีกหนึ่งมาตรการเพิ่มเติมที่ธนาคารได้มีการประกาศใช้เพื่อให้ความช่วยเหลือและลดภาระดอกเบี้ยให้กับลูกค้าของธนาคาร
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นลบต่อกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงสูงสุด 0.17% ซึ่งกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่มีฐานเงินให้กู้ยืมเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อย่างไรก็ตาม จะได้รับการชดเชยจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง 0.23% จากการปรับลดเงินนำส่งกองทุน FIDF จาก 0.46% ลงเป็น 0.23% คาดส่งผลบวกต่อ BBL ที่มีสัดส่วนเงินฝากที่สูง ทั้งนี้ ยังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น Neutral และหุ้น top pick ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) แนะ”ซื้อ”ให้ราคาเป้าหมาย 140.00 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 เม.ย. 63)
Tags: BANK, ตลาดหุ้นไทย, ธนาคารพาณิชย์, บล.เคทีบี, ลดดอกเบี้ย, หุ้นไทย