หุ้น STEC ราคาวิ่งขึ้น 4.80% มาอยู่ที่ 13.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 92.23 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.58 น. โดยเปิดตลาดที่ 12.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 13.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 12.80 บาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ “ซื้อ” หุ้นบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ราคาเป้าหมาย 18.00 บาท หลังมีความคืบหน้าในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยเมื่อวานนี้แหล่งข่าวคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการดังกล่าว ออกมาระบุว่าขณะนี้มีความคืบหน้าการเจรจากับกลุ่ม BBS ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถส่งสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุดได้ในสัปดาห์หน้า จากนั้นจึงจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ประมาณ พ.ค. นี้
ทั้งนี้ เห็นว่าปัจจัยดังกล่าวเป็นบวกต่อกลุ่ม BBS (BA 45%, BTS 35%, และ STEC 20%) โดยเฉพาะ STEC ซึ่ง timeline ยังเป็นไปตามที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลงนามสัญญาโครงการอู่ตะเภาฯ ได้ภายใน พ.ค. – มิ.ย. นี้ โดยเบื้องต้น STEC คาดมูลค่างานก่อสร้างเฟสแรกจะอยู่ที่ราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่ม backlog ให้บริษัททันที และบริษัทคาดจะเริ่มงานก่อสร้างได้ประมาณช่วงไตรมาส 4/63 จึงประเมิน backlog ของ STEC ในปี 2563 จะยังอยู่ในระดับสูงที่ราว 8.4 หมื่นล้านบาท ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม
นอกเหนือจากโครงการอู่ตะเภาฯ แล้ว STEC ยังมีโครงการอื่น ๆ ที่รอลงนามสัญญาในปี 2563 ได้แก่ โครงการ O&M มอเตอร์เวย์เส้น M6 และ M81 มูลค่า 5 พันล้านบาท และโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีชมพู มูลค่า 2.5 พันล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 เม.ย. 63)
Tags: backlog, STEC, กลุ่มบีบีเอส, ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, บล.เคทีบี, สนามบินอู่ตะเภา, หุ้นไทย, อู่ตะเภา, เมืองการบิน