มั่นใจมาตรการดูแลเศรษฐกิจได้ยาว 6 เดือน เตรียมออก กม.จัดหาแหล่งเงิน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการประเมินเศรษฐกิจไทยในขณะนี้
เห็นว่าจำเป็นต้องเร่งออกมาตราการดูแลเศรษฐกิจชุดที่ 3 ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งประชาชน และกลุ่มเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็ก รวมถึงมาตรการในการดูแลเสถียรภาพตลาดเงินและตลาดทุน เนื่องจากภาพเศรษฐกิจจริงถูกโยงไปกับภาคตลาดเงินและตลาดทุน
โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 3 จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วาระพิเศษได้พิจารณาในการประชุมในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) เพื่อให้เห็นชอบในหลักการว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวจะเข้ามาดูแลในส่วนใดบ้าง จำนวนงบประมาณที่ต้องใช้ รวมถึงการจัดหาแหล่งเงิน ซึ่งจะมีทั้งการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ในการจัดหาแหล่งเงินเพื่อนำมาใช้ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ หลังจากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า (7 เม.ย.) ได้พิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง
“ถ้า ครม.วาระพิเศษ เห็นชอบในหลักการของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดนี้ จะสามารถดูแลเศรษฐกิจไทยได้อีก 6 เดือน ประชาชนจะได้รับการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการสามารถอยู่ต่อไปได้ โดยที่ยังรักษาสถานะการจ้างงานไว้ได้ และเสถียรภาพด้านตลาดเงินและตลาดทุนจะมีความมั่นคง เป็นเรื่องที่รัฐบาลมองไปข้างหน้า เป็นการเตรียมพร้อมไว้ โดยหาก ครม.วาระพิเศษเห็นชอบในหลักการ ก็จะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 7 เม.ย.นี้”
รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า แหล่งเงินที่จะใช้สำหรับดำเนินมาตรการดูแลเศรษฐกิจระยะที่ 3 จะมาจากงบประมาณรายจ่าย ปี 2563 โดยจะมีการออก พ.ร.บ.โยกงบประมาณของทุกกระทรวง ในส่วนที่ไม่จำเป็นมาใช้ดำเนินการ โดยยืนยันว่าการโยกงบดังกล่าวนี้ จะไม่ส่งผลกระทบกับการจ่ายเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้าง ซึ่งขณะนี้สำนักงบประมาณกำลังพิจารณาดำเนินการ จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีจำนวนเงินเท่าใด
นอกจากนี้ จะมีการออก พ.ร.ก.กู้เงินภายในประเทศเพิ่มเติม เนื่องจากชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 3 จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ส่วนจะใช้ต้องกู้เงินจำนวนเท่าใดนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังพิจารณารายละเอียด เพื่อเสนอให้ที่ประชุม ครม. วาระพิเศษเห็นชอบในหลักการก่อนเสนอให้ที่ประชุม ครม.ในวันที่ 7 เม.ย. อนุมัติชุดมาตรการเพื่อให้มีผลในการดำเนินการต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 เม.ย. 63)
Tags: ก.ล.ต., กระทรวงการคลัง, ตลาดหลักทรัพย์, ธนาคารแห่งประเทศไทย, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ, สมคิด จาตุศรีพิทักษ์