ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.3% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 44 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2519 อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และตลาดการเงินที่มีความผันผวนมากขึ้น
ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวลดลงอย่างมากจากที่เวิลด์แบงก์ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนม.ค.ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะอยู่ที่ 5.9% โดยในเวลานั้นเวิลด์แบงก์ยังไม่ได้พิจารณาถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีต้นตอมาจากประเทศจีน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกใกล้เข้าสู่ภาวะชะงักงัน เนื่องจากรัฐบาลมีคำสั่งห้ามประชาชนเคลื่อนไหวสัญจรและภาคธุรกิจต้องปิดการดำเนินงาน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ เวิลด์แบงก์คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแตปี 2519 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจจีนหดตัวลงอย่างรุนแรง ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายที่เกิดจากการปฏิวัติวัฒนธรรมภายในประเทศ
“กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลงอย่างมากในช่วงที่จีนเดินหน้ารับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเรากำลังจับตาดูว่ารัฐบาลจีนจะสามารถพลิกฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้กลับมาเหมือนเดิมได้หรือไม่”
เวิลด์แบงก์ระบุ
เวิลด์แบงก์ยังระบุด้วยว่า บริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่งได้เริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง แต่บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขณะที่มีรายงานว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีนกระเตื้องขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากนี้ เวิลด์แบงก์ยังเตือนว่า ระบบการเงินทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิกฟิกยังคงมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก พร้อมกับเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดำเนินนโยบายการค้าแบบเปิดกว้าง โดยระบุว่า หลายประเทศได้ออกมาตรการคุมเข้มด้านการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อสำรองสินค้าที่จำเป็นเอาไว้สำหรับผู้บริโภคภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งมาตรการเหล่านี้กำลังส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่อ่อนแอกว่า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 มี.ค. 63)
Tags: จีน, ธนาคารโลก, เวิลด์แบงก์, เศรษฐกิจจีน, เศรษฐกิจชะลอตัว