ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (13 ธ.ค.) หลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐและจีนประกาศข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกในตลาดเกี่ยวกับกำหนดเส้นตายที่สหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,135.38 จุด เพิ่มขึ้น 3.33 จุด หรือ +0.01%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,168.80 จุด เพิ่มขึ้น 0.23 จุด หรือ +0.01%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,734.88 จุด เพิ่มขึ้น 17.56 จุด หรือ +0.20%
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ บวก 0.4%, ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.7% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 0.9%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากการที่หุ้นแอปเปิลปิดบวก 1.36%
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนหลังสหรัฐ-จีนประกาศบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกซึ่งสหรัฐจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนบางส่วนเพื่อแลกกับการที่จีนซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น และสหรัฐได้ตกลงที่จะระงับการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่วงเงิน 1.60 แสนล้านดอลลาร์ที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ด้วย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้ปรับตัวรับข่าวที่ว่านายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษชนะการเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้มีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแผนการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคในดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.84% ขณะที่กลุ่มพลังงานและกลุ่มวัสดุปรับตัวลง
หุ้นอะโดบี อิงค์ พุ่ง 3.92% หลังประมาณการรายได้และผลกำไรไตรมาส 4 สูงเกินคาด แต่หุ้นบรอดคอม อิงค์ ร่วง 3.78% หลังเปิดเผยแนวโน้มรายได้ที่ไม่ดีนักสำหรับปี 2563 และหุ้นออราเคิล คอร์ป ร่วง 3.47% หลังคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 ต่ำกว่าคาด
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. ขณะที่สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. ส่วนยอดขายในภาคธุรกิจลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนก.ย.
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 0.5% ในเดือนต.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าลดลง 1.3% ในเดือนพ.ย. หลังจากลดลง 3.0% ในเดือนต.ค.
ส่วนดัชนีราคานำเข้าพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ลดลง 0.1% ในเดือนพ.ย. หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนต.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าพื้นฐานลดลง 1.3% ในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาส่งออกลดลง 1.3% หลังจากลดลง 2.3% ในเดือนต.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 62)
Tags: ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก, เจรจาการค้า