นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดที่ระดับ 30.02 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิด 30.16 บาท/ดอลลาร์
“เงินบาทเคลื่อนไหวทรงตัวในช่วงเช้า แต่พอช่วงบ่ายกลับมาแข็งค่าหลังจากมีแรงขายดอลลาร์…30.02 ถือเป็นการแข็งค่าในรอบ 6 ปีครึ่ง” นักบริหารเงินระบุ
สำหรับทิศทางค่าเงินบาทหลังเปิดทำการหลังปีใหม่ คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.00-30.15 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดยังรอความชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ และในช่วงวันหยุดยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 30.1203 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.15 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.31/32 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1192 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1194/1195 ดอลลาร์/ยูโร
- กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.10-30.25 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 30.15 บาท/ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทเข้าทดสอบระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปีอีกครั้ง
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยเดือนพฤศจิกายน 2562 ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยการส่งออกสินค้าหดตัวต่อเนื่องตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าเป็นสำคัญ ส่งผลให้การนำเข้าสินค้า การผลิตภาคอุตสาหกรรม และเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตัวสอดคล้องกัน สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวทั้งจากรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ด้านเครื่องชี้การบริโภคเอกชนยังอยู่ในทิศทางชะลอตัว โดยมาตรการภาครัฐมีส่วนช่วยพยุงกำลังซื้อบางส่วน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่อง
- ธปท. คาดว่าแนวโน้มการส่งออกของไทยในเดือนธ.ค.62 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีจะดีขึ้นกว่าเดือนที่แล้ว โดยน่าจะติดลบน้อยลง ซึ่งเป็นผลมาจากเริ่มเห็นความชัดเจนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในเฟสแรกที่จะมีขึ้นในต้นปี 63 นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับฐานการส่งออกในเดือน ธ.ค.61 ที่ต่ำ จึงน่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้มูลค่าการส่งออกเดือนธ.ค.นี้ ดีขึ้นกว่าเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
- ธปท.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 63 จะเติบโตได้ 2.8% ซึ่งดีขึ้นกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ 2.5% พร้อมมองว่าปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีหน้ายังมาจากภาคการส่งออกและการลงทุนเป็นหลัก ทั้งการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ ซึ่งในเรื่องการส่งออกนั้น แม้ปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์การค้าโลกยังคงมีอยู่ แต่เชื่อว่าการส่งออกปีหน้าจะเติบโตได้ดีกว่าปีนี้
- ธปท.คาดการณ์ว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในปี 62 นี้จะหดตัว -3.3% ขณะที่คาดว่าในปี 63 มูลค่าส่งออกจะขยายตัวได้เล็กน้อยที่ 0.5%
- PwC ประเทศไทย เปิดเผยถึงรายงาน Doing business across borders in Asia Pacific 2019-2020 ของ PwC ที่ได้ทำการสำรวจผู้บริหารในกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) จำนวนกว่า 1,000 รายใน 21 เขตเศรษฐกิจว่า ความท้าทายในการประกอบธุรกิจในปี 2563 จะมีมากขึ้น
- ผลการศึกษาโดยกลุ่มนักวิจัยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า กลยุทธ์การเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพื่อปกป้องและช่วยเหลือผู้ผลิตชาวสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น ให้ผลตรงกันข้าม ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้เกิดการว่างงานและราคาสินค้าที่สูงขึ้น
- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกของจีนในปี 2562 จะเพิ่มขึ้น 8% แตะระดับ 41.1 ล้านล้านหยวน (5.88 ล้านล้านดอลลาร์) นับเป็นยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าปี 2561 ซึ่งขยายตัว 9%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 62)