สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า จีนมีรายได้จากการค้าสินค้าและบริการกับต่างประเทศที่ระดับ 1.65 ล้านล้านหยวน (2.353 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือนพ.ย. ขณะที่รายจ่ายอยู่ที่ 1.49 ล้านล้านหยวน ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้าและบริการกับต่างประเทศ 1.604 แสนล้านหยวน

SAFE ระบุว่า รายได้จากการค้าสินค้าอยู่ที่ 1.51 ล้านล้านหยวนในเดือนพ.ย. ส่วนรายจ่ายอยู่ที่ 1.22 ล้านล้านหยวน ส่งผลให้มียอดเกินกุล 2.893 แสนล้านหยวน
ขณะที่การค้าในภาคบริการขาดดุลอยู่ที่ 1.289 แสนล้านหยวนในเดือนที่แล้ว เนื่องจากจีนมีรายได้จากการค้าภาคบริการ 1.393 แสนล้านหยวน น้อยกว่ารายจ่ายซึ่งอยู่ที่ 2.682 แสนล้านหยวน
การค้าในภาคบริการหมายถึงการขายและการส่งสินค้าที่จับต้องไม่ได้ อาทิ การขนส่ง การท่องเที่ยว การสื่อสาร การก่อสร้าง โฆษณา การคำนวณและการบัญชี
ทั้งนี้ จีนได้ใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงการพัฒนาการค้าในภาคบริการ อาทิ การเปิดเสรีภาคการเงินทีละน้อย รวมไปถึงการศึกษา วัฒนธรรม และการบำบัดรักษาทางการแพทย์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า SAFE ได้เริ่มเปิดเผยข้อมูลการค้าบริการระหว่างประเทศประจำเดือนเป็นครั้งแรกในเดือนม.ค. 2557 เพื่อปรับปรุงความโปร่งใสของดุลการชำระเงิน เนื่องจากการค้าบริการคิดเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ในดุลการชำระเงินของจีน และนับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา SAFE ยังได้รวมข้อมูลการค้าสินค้าในรายงานประจำเดือนด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ธ.ค. 62)