เงินบาทเปิด 30.22/26 วันนี้ติดตามผลประชุมกนง.

  • คาดเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15-30.30 บาท/ดอลลาร์
  • ตลาดรอติดตามผลการประชุม กนง. บ่ายวันนี้ คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
  • ตลาดรอดูความเห็นของ กนง. ต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2563

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.22/26 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.22/23 บาท/ดอลลาร์

วันนี้ตลาดคงรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งคาดว่าคงจะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่อย่างใด แต่ต้องรอดูการออกมาให้ความเห็นของ กนง.ต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 63 ว่าจะเป็นอย่างไร

“วันนี้ต้องจับตาดูผลประชุม กนง. แต่คาดว่าคงไม่ปรับดอกเบี้ย คงต้องรอดูแนวโน้มเศรษฐกิจ และ comment ว่าจะออกมาอย่างไร ช่วงนี้ใกล้สิ้นปี ตลาดน่าจะยังเงียบๆ” นักบริหารเงินระบุ

ส่วนปัจจัยอื่นที่ต้องตามต่อ คือการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในเฟส 2 ช่วงต้นปีหน้า รวมทั้งสถานการณ์การเมืองภายในประเทศด้วย

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15-30.30 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (17 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.12983% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.15035%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.50 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 109.61/63 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1140 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1146/1150 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.2490 บาท/ดอลลาร์
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2563
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า กนง.น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.25% ในการประชุมนโยบายการเงินรอบสุดท้ายของปี 2562 ในวันที่ 18 ธันวาคม 2562 เพื่อรอประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า
  • กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ปีหน้า มีความท้าทาย 4 ปัจจัย คือ ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว คาดว่าจีดีพีจะโต 2.7%, การสรรหาและเพิ่มบุคลากรทักษะใหม่ๆ เช่น นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักวิเคราะห์ข้อมูล นักออกแบบและดีไซน์ด้านดิจิทัลแบงกิ้งและแอพพลิเคชั่น เป็นต้น, การเตรียมพร้อมรับแข่งขันในธุรกิจการเงิน โดยเฉพาะแพลตฟอร์มขนาดใหญ่จากภายนอกประเทศ เช่น กูเกิล เฟซบุ๊ก ที่อาจจะเข้ามาร่วมแข่งขัน ซึ่งธนาคารพาณิชย์ไทยอาจต้องรวมตัวกันมากขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจ และการบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพราะยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค. 2562-1 ม.ค. 2563 รวม 5 วัน จะมีการท่องเที่ยวและสร้างรายได้หมุนเวียนจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ รวม 23,800 ล้านบาท
  • นักการทูตของสหภาพยุโรป (EU) รายหนึ่งกล่าวว่า EU จะต้องเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อังกฤษอาจแยกตัวจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit) หลังนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมออกกฎหมายป้องกันไม่ให้มีการขยายเวลาช่วงเปลี่ยนผ่านของอังกฤษหลังจากแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) เกินสิ้นปี 2563
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.7% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่พนักงานของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ยุติการผละงานประท้วง
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.365 ล้านยูนิต จากระดับ 1.323 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนพ.ย.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.345 ล้านยูนิต โดยได้ปัจจัยหนุนจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองในระดับต่ำ
  • เงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) หลังจากสื่อรายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมออกกฎหมายป้องกันไม่ให้มีการขยายเวลาช่วงเปลี่ยนผ่านของอังกฤษหลังจากแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) เกินสิ้นปี 2563 ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอังกฤษอาจแยกตัวจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด
  • สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายวงเงิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐหรือชัตดาวน์ภายในวันศุกร์นี้
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเข้าร่วมการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ในปีหน้า หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมในปีนี้ เนื่องจากสหรัฐเผชิญภาวะการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ในช่วงเดือนม.ค.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 3/2562, ดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา คงขุนเทียน

Tags: , , ,
Back to Top